เงินยูโร สามารถปรับตัวขึ้นมาและรักษาระดับของโมเมนตัมไว้ได้ ต่อเงินดอลลาร์สหรัฐ ในตลาดที่มีการปรับฐานและ ความผันผวน ในขณะที่ยังคงอยู่ต่ำกว่านะดับที่ 1.1300 พร้อมกับตำแหน่งปิดประจำวัน นอกจากนั้นสหรัฐอเมริกา และประเทศจีน ยังคงไม่สามารถตกลงกันได้ ดังนั้นแล้ว สงครามการค้าอาจจะยังคงดำเนินต่อไป ทางด้านคระกรรมการผู้กำหนดนโยบายทางการเงิน (FOMC) ยังคงเป็นกลางกับนโยบายการเงินอยู่ในตอนนี้
ยูโรโซน ยังคงดิ้นรนอยู่กับ การชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ถึงแม้ว่าจะมีการรายงานเศรษฐกิจออกมาแบบไม่แน่นอน จากกลุ่มยูโรโซนจะช่วยให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นมา เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ได้รับแรงผลักดันบางอย่างอยู่ด้วย อ้างอิงข้อมูลจากการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจของคณะกรรมาธิการยุโรปที่ระบุไว้ว่า เงินยูโร มีแนวโน้มที่จะยังคงมีการปรับตัวลงไปในปี 2019 พร้อมกับความหวังที่ว่าจะมีการดีดตัวขึ้นไปในปี 2020 นอกจากนั้น การเติบโตของยอดจีดีพี คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.2% เมื่อเปรียบเทียบกับระดับที่ 1.9% ในปี 2018 สำหรับอัตราการว่างงาน ควรอยู่ที่ระดับ 7.7% โดยข้อมูลตัวเลขนี้ค่อนข้างดีกว่าตัวเลขก่อนหน้านี้ แต่มันก็ยังไม่ดีที่สุด ส่วนการขาดดุลในงบประมาณปัจจุบันของยูโรโซน อาจจะเพิ่มขึ้นมาเป็นระดับที่ 0.9% ของจีดีพี ถึงแม้ว่า หนี้สินของยูโรโซนอาจจะลดลงไปแล้ว แต่มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นเงินยูโร
นอกจากนี้ สงครามการค้าเป็นเหตุผลหลัก ที่ทำให้ตลาดเกิดใหม่อ่อนตัวลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน สำหรับข้อตกลงของการดำเนินการ Brexit ยังคงมีการยืดเยื้ออยู่ตลอดในช่วงนี้ ซึ่งอาจจะยุติลงไปด้วยการไม่มีข้อตกลงใดๆ เลย ในวันนี้ จะมีการรายงานข้อมูลดุลการค้าของประเทศเยอรมันนำเสนอออกมา มีการคาดการณ์กันว่าข้อมูลจะมีการปรับตัวขึ้นมาถึง 19.4B จากข้อมูลตัวเลขก่อนหน้านี้ที่ระดับ 18.7B แล้วยอดค้าปลีกของประเทศอิตาลี มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นมาเป็น 0.3% จากมูลค่าก่อนหน้านี้ที่ระดับ 0.1%
ธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา มีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับ ผลกระทบของเศรษฐกิจ ที่เกิดขึ้นมาจากความเชื่อมั่นของตลาด สำหรัเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา ได้อยู่ใกล้กับจุดที่ อัตราเงินเฟ้อขยับตัวสูงขึ้นกว่าเดิมและ จะมีการกำหนดการขึ้นภาษีนำเข้าต่อประเทศจีน ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดการปรับราคาขึ้นมาด้วยเช่นกัน ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา Donald Trump เสนอให้เพิ่มอัตราภาษีไปเป็นระดับที่ 25% สำหรับสินค้าจากประเทศจีนที่คิดเป็นมูลค่าเท่ากับ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยการดำเนินการเช่นนี้ มีผลกระทบเกิดขึ้นมาแล้ว กรุงปักกิ่งกล่าวว่า จะหยุดงานเพื่อออกมาประท้วง ดังนั้นแล้ว ความตึงเครียดจึงเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ขณะที่ทั้งทั้งสองฝ่ายได้ดำเนินการเจรจาครั้งสุดท้าย เพื่อพยายามบรรลุข้อตกลงให้ได้
ในวันนี้ มีการรายงานข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐอเมริกาออกมา โดยคาดการณ์กันว่าข้อมูลจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในระดับที่ 0.4% ส่วนดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางคาดการณ์ไว้ว่า จะลดระดับลงไปเหลืออยู่ที่ -165.2B จากตัวเลขก่อนหน้านี้ที่ระดับ -146.9B นอกจากนี้แล้ว สมาชิกของ FOMC คุณ Brainard และ Williams กำลังจะออกมากล่าวแถลงการณ์ในวันนี้ ถ้าหากคำพูดของพวกเขา ได้รับการตอบรับอย่างดี มันก็อาจนำไปสู่การทำกำไรในเงินดอลลาร์สหรัฐในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันนี้พบว่า เงินดอลลาร์สหรัฐอาจได้รับอิทธิพลจากการรายงานข้อมูลทางเศรษฐกิจในวันนี้ มันจึงอาจนำไปสู่ความผันผวนของคู่สกุลเงินนี้ ในทางตรงกันข้าม เงินยูโรอาจปรับตัวขึ้นมาจากการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ดี อย่างไรก็ตาม ความผันผวนจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ในตอนนี้ ลองมาพิจารณากันที่มุมมองทางเทคนิค ราคาในตอนนี้กำลังมุ่งหน้าไปยังแนวต้านในระดับที่ 1.1250-1.1300 ถ้าหากมีแรงกดดันของแนวโน้มขาลง หรือการปฏิเสธในแนวโน้มขาขึ้นเกิดขึ้นมาละก็ ความต่อเนื่องของโมเมนตัมขาลงในคู่สกุลเงินนี้ ก็คาดการณ์ว่าจะมีเป้าหมายไปยังแนวรับที่ระดับ 1.1050 ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เนื่องจาก ราคายังคงอยู่ต่ำกว่าระดับที่ 1.1300 เลยคาดการณ์ว่าส่วนเบี่ยงเบนขาลงจะยังคงส่งผลต่อไป