ข้อมูลเชิงพื้นฐานจากผลผลิตทางอุตสาหกรรม ในประเทศฝรั่งเศสได้ก่อให้เกิดแรงกดดันต่อสกุลเงินยูโร ในช่วงครึ้งแรกของรอบวัน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการนำเสนอ ระดับต่ำสุดประจำเดือนถัดไปออกมา ผู้ซื้อรายใหญ่ของสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงก็ไม่ได้สนับสนุนต่อตลาด ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดการปรับฐานขึ้นมา ในช่วงแรกของเซสชั่นอเมริกาเหนือในวันพุธที่ 9 เดือนพฤษภาคมนั้นเอง
ข้อมูลด้านผลผลิตทางอุตสาหกรรม ในประเทศฝรั่งเศสดูเหมือนว่าจะสร้างผลกระทบเชิงลบให้กับ การเติบโตของ GDP ในช่วงไตรมาสแรกของรอบปี ซึ่งก็ไปสอดคล้องกับภาพรวมของภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ ที่มีการสำรวจในช่วงเดือนแรกของปี 2018 ภายในยูโรโซนอย่างใกล้ชิด
อ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานสถิติ ที่ได้ระบุมาว่า ผลผลิตทางอุตสาหกรรม ในประเทศฝรั่งเศสของเดือนมีนาคม ของปีนี้ ได้ลดระดับลงไป 0.4% เมื่อนำมาเทียบกับช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ระหว่างที่ผู้เชี่ยวชาญ และนักเศราฐศาสตร์หลายตนกลับมองว่า การคาดการณ์ต่อการเติบโตน่าจะอยู่ใน 0.2% สำหรับข้อมูลในเดือนกุมภาพันธ์ก็พบว่ามีแนวโน้มปรับตัวลงมา ในตอนแรก มีการรายงานออกมาว่า ผลผลิตทางอุตสาหกรรม ในประเทศฝรั่งเศสได้เพิ่มขึ้นมาถึง 1.2% และยังมีการแก้ไขข้อมูลออกมาอีกใน 1.1%
จากภาพรวมทางเทคนิคของคู่สกุลเงิน ยูโรและดอลลาร์สหรัฐ (EURUSD) จะพบว่า การรวมกำลังที่ไม่ประสบผลสำเร็จในระยะที่ต่ำกว่า ระดับต่ำของรอบเมื่อวานได้ส่งผลถึงการขายเพื่อทำกำไร จากนักเก็งกำไร และ การปรับฐานขึ้นในสกุลเงินยูโร ในตอนนี้ เป้าหมายหลักของสกุลเงินยูโรก็คือ การเคลื่อนตัวทะลุผ่านแนวต้านที่ 1.1890 โดยถ้าสูงกว่านั้น ก็ไม่สามารถเคลื่อนตัวทะลุผ่านไปได้ในช่วงการซื้อขายเมื่อวานนี้ เฉพาะการ "กำหนด" แบบี้จะช่วยให้จัดการกับการเติบโตอย่างมากของ คู่สกุลเงิน ยูโรและดอลลาร์สหรัฐ (EURUSD) ได้ และการเดินหน้าไปยังออเดอร์หยุดของ ผู้เล่นส่วนใหญ่เหนือระดับนั้น พร้อมกับการหยุด ในพื้นที่แนวต้านที่ 1.1930 และ 1.1970
ในวันนี้ เว็บไซต์ทางการของกระทรวงพาณิชย์ของประเทศจีนได้ออกมา กล่าวไว้ว่า เจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน PRC เตรียมพร้อมที่จะเดินหน้าหาข้อตกลงด้านการค้า กับทางสหรัฐอเมริกา และรับคำเชิญของ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกา Steven Mnuchin นอกจากนั้นแล้ว ที่ปรึกษาของประธานาธิบดี Xi Jinping นาย Liu He ก็จะเดินทางใกล้ถึงสหรัฐอเมริกา เพื่อดำเนินการต่อรองด้านการค้าต่อไป ทางด้านทำเนียบขาวเองก็ออกมายืนยันกับการมาเยือนของนาย Liu He ยังสหรัฐอเมริกา ที่จะเกิดขึ้นภายในสัปดาห์หน้า
เป็นเรื่องที่ควรทราบว่า จะมีการประชุมอย่างเป็นทางการครั้งสุดท้าย กับตัวแทนของสหรัฐอเมริกา ไม่ได้ช่วยให้หาข้อยุติที่สำคัญออกมาเท่าที่ควร
ในช่วงครึ้งที่สองของรอบวันจะพบว่า เทรดเดอร์หลายคนกำลังจับจ้องรอดูการรายงานข้อมูลจาก กระทรวงด้านพลังงานของสหรับอเมริกาเกี่ยวกับ น้ำมันดิบ, แท่นขุดเจาะ และ ปริมาณน้ำมันเบนซิลสำรอง ซึ่งอาจจะช่วยสนับสนุนต่อแนวโน้มตลาดน้ำมันได้ หลังจากที่มีคำแถลงการณ์ออกมาเมื่อวานนี้จากนาย Donald Trump ที่ส่งผลให้เกิดการเติบโตที่ทรงตัวมากขึ้น
เป็นที่คาดกันว่า น้ำมันสำรองเชิงพาณิชย์ ในสหรัฐอเมริกายังคงอยู่ในระดับเดิม แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนกลับมองว่า อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเกิดขึ้นในส่วนของปริมาณ โดยระยะที่คาดการณ์เอาไว้จะอยู่ในช่วง - 3ล้านบาร์เรล จนถึง +3ล้านบาร์เรล
ถ้าหากข้อมูลออกมาดีกว่าที่ได้กำหนดไว้ ในส่วนของการลดลงของปริมาณ มันก็อาจจะไปสนับสนุนต่อแนวโน้มตลาดน้ำมันได้ ซึ่งในตอนนี้กำลังมีการปรับระดับสูงประจำเดือนถัดไปอยู่ ทางด้านระดับน้ำมันของ WTI ได้เคลื่อนตัวทะลุผ่านระดับที่ 71เหรียญต่อบาร์เรล ออกไป ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอุปสงค์ขึ้นมาใหม่ และการฟื้นตัวขึ้นมาของมูลค่า ที่พร้อมจะไปอยู่ในพื้นที่ของ 77เหรียญต่อบาร์เรล และนี้เป็นระดับสูงใหม่ตั้งแต่วันที่ 23 เดือนพฤศจิกายนปี 2014 ที่ผ่านมา