ในวันอังคาร รัฐสภาของประเทศอังกฤษยังจัดการพิจารณา เกี่ยวกับแนวโน้มของอัตราเงินเฟ้อในประเทศ ตามปกติแล้ว เหตุการณ์นี้มุ่งเน้นไปที่ตลาด เนื่องจากไม่เพียง แต่หัวหน้าของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ แต่ยังรวมถึง สมาชิก "สามัญ" ของหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศอังกฤษ ที่ได้ทำหน้าที่ก่อนหน้าสมาชิกรัฐสภา ดังนั้นแล้ว คำแถลงการณ์ของพวกเขาก็ช่วยให้เราเข้าใจถึง ความเชื่อมั่นที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ธนาคารกลาง ในบริบทของแนวโน้มต่อการรัดกุมนโยบายการเงิน มันกลับแสดงให้เห็นว่า ไม่ใช่ทุกอย่างที่ไม่ดี เท่ากับมันดูเหมือนจะเกิดขึ้นต่อเทรดเดอร์ เพราะว่า สมาชิกของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ ยังมีความมั่นใจ และยังไม่ล่มเลิกความคิดเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นมาอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่อย่างไรก็ตามทุกอย่างต้องอยู่ในการดูแล
คำพูดของคุณ Mark Carney ในสภาล่างของรัฐสภา ยังไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นแนวโน้มแบบ "รัดกุมด้านอัตราดอกเบี้ย" หลังจากที่มีการ "เพิ่ม"เข้ามา มันก็จะตามมาด้วยการ "ลบออก" อย่างมาก ในทางตรงข้าม มันเป็นเหตุผลที่ว่า สภาวะทางเศรษฐกิจได้ตกต่ำลงไปในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ โดยปัจจัยตามฤดูกาล ที่ได้ส่งผลไปยังที่สภาพอากาศอันเลวร้ายอย่างผิดปกติ ในทางกลับกัน เขาก็กล่าวว่า ในส่วนใหญ่ของการสูญเสียทางเศรษฐกิจนั้นจะไม่ได้รับการชดเชยในอนาคตอันใกล้
คุณ Carney ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า การปรับตัวขึ้นตามลำดับในตัวบ่งชี้ รายได้ที่แท้จริง แต่ในเวลาเดียวกัน ก็ได้ออกมาเตือนว่า ประเทศอังกฤษมีแนวโน้มที่จะเรียกคืนเงินสำรองของพวกเขา (การระดมทุน) มากกว่า แทนที่จะเป็นการเพิ่มระดับของการใช้จ่ายของผู้บริโภค นอกจากนี้แล้ว คุณMark Carney ยังได้ประเมินแนวโน้มของ Brexit ที่ดูแล้วยังไม่ชัดเจน ตามมุมมองของเขา ในตอนนี้ตลาดถูกบังคับให้ทนกับความไม่แน่นอนในเรื่องนี้อยู่ แต่ ในอนาคตนี้ ปัจจัยนี้จะมีอิทธิพลน้อยลงไป และจะช่วยให้ผู้ควบคุมจะมีความมั่นใจมากขึ้น ในเรื่องของการรัดกุมนโยบายการเงิน คำบอกเล่านี้นี้ฟังดูค่อนข้างคลุมเครือและยังไม่ชัดเจนสักเท่าไหร่ แต่นัยยะอาจจะเห็นได้ชัด เมื่อประเทศอังกฤษและทางกรุงบรัสเซลส์ ได้ออกมาสรุปข้อตกลงร่วมกัน (เท่าที่จะเป็นไปได้) ว่าทาง ธนาคารกลางจะยกเลิกการดำเนินการในเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นมา เนื่องจากมีข้อเท็จจริงที่ว่า ขั้นตอนของการ "ยกเลิก" นั้นเป็นเรื่องที่ยากมากๆ และก็ไม่เหมาะต่อการเจรจาถึงอัตราเร่งที่เป็นไปได้ของการปรับขึ้นในอัตราดอกเบี้ยในรอบวัน สำหรับจุดเปลี่ยนในเรื่องนี้คือการประชุมในเดือนมิถุนายน ของประเทศในสหภาพยุโรป แต่ก็ยังคงเป็นเวลามากกว่าหนึ่งเดือน
โดยทั่วไปแล้ว สถานะของคุณ Mark Carney ในตอนนี้ก็ยังครึ้งกลางๆ มันยังคงเป็นไปตามสถานการณ์ตามแนวพื้นฐานสำหรับปีนี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการชะลอตัวลงของตัวชี้วัดที่สำคัญ หัวหน้าธนาคารกลางอังกฤษ ได้ตัดสินใจที่จะรอดูตำแหน่ง แล้วทำการประเมินต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของการเติบโตในไตรมาสที่สองของปีนี้ก่อน สำหรับสมาชิกคนอื่น ๆ ของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษก็ได้แสดงความคิดเห็นเช่นเดียวกันยืนยันความตั้งใจของธนาคารกลาง
นั่นคือเหตุผลที่ข้อมูลตัวเลขทางสถิติ ของเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญ จะมีบทบาทพิเศษสำหรับเงินปอนด์ อย่างแรก ทางเรากำลังพูดถึงการเคลื่อนไหวของอัตราเงินเฟ้อ,ตลาดแรงงานและดัชนี PMI หลัก ในเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศอังกฤษจะมีการนำเสนอออกมา ซึ่งจะเป็นแนวทางสำหรับเทรดเดอร์ผู้เล่นในคู่สกุลเงินปอนด์และดอลลาร์สหรัฐ (GBP / USD)
การคาดการณ์โดยรวมยังค่อนข้างดี อ้างอิงจากนักวิเคราะห์ จะทราบได้ว่า ตัวบ่งชี้ จะปรับตัวขึ้นมาในรายเดือนเป็น 0.5% และ 2.5% ในอัตรารายปี อย่างไรก็ตาม ดัชนีค่าเงินเฟ้อพื้นฐาน (ไม่รวมกับ การผันผวนของราคาพลังงานและราคาอาหาร) น่าจะแสดงให้เห็นถึงการชะลอลดลงอีกครั้ง และเคลื่อนตัวไปที่ 2.2% หากตัวเลขในวันพุธออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ เงินปอนด์จะได้รับแรงกระตุ้นอีกครั้งสำหรับการเติบโตที่ถูกต้อง ส่วนแนวโน้มขาขึ้นในคู่สกุลเงินนี้ ก็มีแนวโน้มที่จะมีการกลับตัวสวนทางอย่างมาก แต่ก็อาจจะมีการเข้าใกล้ขอบเขตของตำแหน่งที่ 35 ถ้าหากดัชนีราคาผู้บริโภค ทำให้ตลาดเกิดความผิดหวัง แนวโน้มขาลง ก็จะเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่ง ดังนั้นแล้ว ความจริงเรื่องนี้ก็ได้อธิบายถึง การเปลี่ยนแปลงตามความระมัดระวังในวันอังคาร ในคู่สกุลเงินปอนด์และดอลลาร์ ทางด้านเทรดเดอร์ เองก็ไม่ทราบว่าจะใช้วิธีใดในการ "ปรับ" ความแกว่ง ดังนั้นพวกเขาจึงยังไม่เปิดตำแหน่งขึ้นมา
จากมุมมองทางเทคนิค ระดับที่มีความสำคัญยังคงอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของราคาที่ลดลงไปด้านล่าง ดังนั้นคู่สกุลเงินปอนด์และดอลลาร์สหรัฐ (GBP / USD) ในกราฟราคารายวัน จึงลดลงต่ำกว่าเส้นเฉลี่ยของตัวบ่งชี้ Bollinger Bands ในขณะที่กำลังมีการซื้อขายอยู่ในช่วงระหว่างค่าเฉลี่ย และแนวเส้นที่ต่ำกว่าของตัวบ่งชี้ชนิดนี้ สำหรับตัวบ่งชี้ต่อแนวโน้ม Bollinger Bands ได้สร้างสัญญาณในแนวโน้มขาลง และแนวกราฟ Ichimoku Kinko Hyo ส่วน กราฟราคาก็แสดงให้เห็นถึงสัญญาณ "Parade of lines" อย่างชัดเจนซึ่งทุกเส้นของตัวบ่งชี้ จะอยู่เหนือกราฟ แล้วยังชี้ไปที่ทิศทางด้านล่าง สำหรับตัวชี้วัดความแกว่ง ที่เหมือนตัวบ่งชี้แนวโน้ม ได้แสดงให้เห็นถึงการลดลงของคู่สกุลเงิน ไปอยู่ในพื้นที่ oversold
หากกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ แม้จะมีแรงกระตุ้นต่อการปรับฐานใน คู่สกุลเงินปอนด์และดอลลาร์สหรัฐ (GBP / USD) ที่อยู่ภายใต้แรงกดดันจากภาพรวมทางเทคนิค โดยที่ช่วงก่อนหน้านี้ ก็ช่วยให้แก้ไขเพิ่มเติมที่แนวเส้นของตำแหน่งที่ 35 แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขเดียว หากอัตราเงินเฟ้อในวันพุธออกมาแล้ว ดีกว่าการคาดการณ์แล้ว ความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มขาลงก็จะยังคงเกิดขึ้นอยู่ และราคาก็จะยังคงปรับตัวงไปหาระดับแนวรับเดิมถัดไปที่ 1.3390 (ระดับต่ำสุดในรายป) ส่วนการพิจารณาของรัฐสภา ในวันอังคารได้สร้างการปรับตัวที่เกิดขึ้นสำหรับการฟื้นตัวของปอนด์ แต่จะให้เกิดขึ้นในกรณีนี้ จำเป็นต้องมีส่วนประกอบที่สำคัญคืออัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง