เงินยูโรได้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นถึงปรับตัวที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นหลังจากการร่วงลงที่ผ่านมาตลอดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางด้านเทรดเดอร์ไม่ได้ให้ความสำคัญกับ การรายงานข้อมูลทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอของประเทศเยอรมัน ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึง การแก้ไขทางเทคนิคในตราสารการซื้อขาย มากไปกว่าการซื้อแบบจริงจาก นักลงทุนในสถาบัน
อ้างอิงจากการรายงานของกระทรวงเศรษฐกิจ ที่ระบุไว้ว่า การผลิตของภาคอุตสาหกรรมของประเทศเยอรมนี ในเดือนมิถุนายนของปีนี้ ได้ลดลงไปอย่างมาก เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม ดังนั้นการปรับตัวลงนั้น เป็นผลมาจาก การลดระดับลงไปของภาคการก่อสร้าง
ดังนั้น การผลิตของภาคอุตสาหกรรมในเดือนมิถุนายน ได้ลดลงไป 0.9% เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์บางคนคาดการณ์ว่า จะลดลงไปแค่ 0.4% หากเทียบกับเดือนมิถุนายนของปีก่อนนี้ จะพบว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นมา 2.5%
ในขณะที่ กระทรวงก็คาดการณ์ว่า การขยายตัวของการผลิตในประเทศเยอรมนี จะยังคงเกิดขึ้นต่อไปในระดับกลาง
การส่งออกของประเทศเยอรมนี ในเดือนมิถุนายนยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดี แล้วก็ยังแสดงให้เห็นถึงว่าความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา ที่เพิ่มมากขึ้น
สำนักสถิติแห่งประเทศเยอรมนี ได้ระบุว่า การส่งออกยังคงทรงตัวเหมือนเดิม ในขณะที่การนำเข้าของประเทศเยอรมนี ในเดือนมิถุนายนได้เพิ่มขึ้นมาถึง 1.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้ สำหรับยอดการค้าในต่างประเทศ ของประเทสเยอรมนีในเดือนมิถุนายน ได้ลดลงมาอยู่ที่ 19.3 พันล้านยูโรจากเดิมใน 20,400 ล้านยูโรในเดือนพฤษภาคม

ในวันนี้ ได้กลายเป็นที่ทราบกันดีทั่วหน้าว่า ข้อตกลงระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศเกาหลีใต้ ที่จะได้ข้อสรุปกันออกมา ที่อาจจะมีการสั่งห้ามเกิดขึ้น ทางด้านฝ่ายนิติบัญญัติของประเทศเกาหลีใต้กล่าวว่า รัฐสภาไม่สามารถให้สัตยาบันในข้อตกลงนี้ได้ เว้นแต่สหรัฐอเมริกา จะไม่ให้การยินยอม อย่างแรกก็คือ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับ รัฐบาลของทำเนียบขาว เพื่อการยกเว้นจากรายชื่อรถยนต์จากเกาหลีใต้ที่ต้องได้รับผลของภาษี
มันควรสังเกตได้ว่า ประธานาธิบดีของประเทศเกาหลีใต้ไม่สามารถเพิกเฉยต่อความเห็นของรัฐสภา และการเห็นพ้องต้องกันในข้อตกลง สำหรับการตอบสนองของสหรัฐอเมริกา ก็เห็นได้ว่า โฆษกของประเทศ คุณ Robert Lightheather ยังไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน
สำหรับภาพรวมทางเทคนิคของคู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ (EURUSD) พบว่า ผู้ซื้อจะเข้าใกล้กับแนวต้านในพื้นที่ 1.1605 อย่างแน่นอน และจะพยายามสร้างแนวบนนั้น ที่เป็นแนวรับใหม่เพื่อการเติบโตต่อไป ถ้าหากสถานการณ์ดังกล่าวไม่เกิดขึ้นจริง มันก็อาจกลายเป็นว่า ตราสารของการซื้อขายนี้จะย้อนกลับมาอยู่ในระดับสูงที่ 1.1630 และ 1.1655 ในกรณีที่ มีการเคลื่อนตัวทะลุผ่านแนวต้านใน 1.1605 มันก็อาจจะกลายเป็นว่ามี การปรับตัวลงมาในพื้นที่ ที่ตอนนี้เป็นแนวรับใน 1.1565