เงินดอลลาร์สหรัฐผ่านไปยังระดับสูงในรอบหลายเดือน ดังนั้นมันอาจจะไปท้าทายกับนักวิเคราะห์ ที่คาดการณ์ไว้ว่า การปรับตัวลงของเงินดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ เกิดขึ้นเนื่องจาก การเปลี่ยนแปลงแนวทางของเฟดเกี่ยวกับ อัตราดอกเบี้ย เงินยูโรได้รับผลกระทบจากการขาดสัญญาณของการฟื้นตัวในเศรษฐกิจของยูโรโซน ในขณะที่ มันอาจคาดการณ์ได้ว่า มันอาจจะเคลื่อนตัวออกไปได้ แนวทาวของการเเข็งค่าของเงินยูโรอาจเป็นเรื่องไม่สำคัญ และเทรดเดอร์กำลังเปลี่ยนแปลงแนวทางอย่างรวดเร็ว แล้วมันกำลังจะเกิดอะไรขึ้น! แล้วทำไมผู้เข้าร่วมในตลาดถึงตกหลุมรักเงินดอลลาร์รึเปล่า?
ความจริงก็คือ ในตอนนี้ เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ดูเหมือนว่าจะเป็นเกาะที่มีแต่ความมั่งคั่งอีกส่วนที่แยกออกจากกัน เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ของโลก ซึ่งยังคงมีการนำเสนอรายงานที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง โดยความขัดแย้งกับทางยูโรโซน นั้นเป็นเรื่องที่สังเกตได้ชัดเจนที่สุด ดังนั้นแล้ว การลดลงของคู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ (EUR / USD) นั้นไม่ได้เกิดมาจาก การแข็งค่าของเงินดอลลาร์อย่างมาก เช่นเดียวกับ การอ่อนค่าของเงินยูโร โดยอัตราที่ ปรับตัวลงไปมากกว่าเดิม เมื่อมีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมา ในส่วนของข้อมูลเมื่อวานนี้ ได้ฉุดเอาคู่สกุลเงินีนี้ในฟอเร็กซ์ลงไป นับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ชะตากรรมของเงินยูโรจะขึ้นอยู่กับสองปัจจัย อันดับแรก จากเส้นทางเส้นเศรษฐกิจระดับโลกที่จะต้องเลือก ถ้าหากมันกลายมเาป็นว่า ประเทศจีนจะสามารถยืนได้ด้วยลำแข้งตนเอง และช่วยเหลือการส่งออกและจีดีพีของประเทศเยอรมัน จากนั้นพวกเรา ก็จะสามารถพิจารณาถึงการซื้อเงินยูโรได้ มันมีค่าหากลองพิจารณาถึง ความขัดแย้งทางการค้าใหม่ ที่อาจจะนำไปสู่ การฟื้นตัวของจีนที่เป็นศูนย์ และจากนั้น การทดสอบของเงินยูโร ที่ระดับ 1.05 ก็อาจจะไม่เกิดขึ้น กุญแจสำคัญถัดไปที่เป็นประตูสู่อนาคตของคู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ (EUR / USD) นั้นอาจจะเป็นอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกาก็เป็นได้
ถึงแม้ว่า เงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นมาอย่างมาก เมื่อเทียบกับแนวโน้มของคู่แข่งหลัก แต่ทางด้านนักวิเคราะห์ค่าเงิน ก็ยังคงสงสัยต่อไปถึง การแข็งค่าในระยะยาว ส่วนนักกลยุทธ์ยังไม่เชื่อถึงการปรับตัวของเงิน "อเมริกัน" เมื่อลองพิจารณาถึง การเติบโตที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งกำลังเกิดขึ้น มาพร้อมกับ "การอ่อนค่าของสกุลเงินอื่นๆ"
นักวิเคราะห์สกุลเงินจากยุโรป ในธนาคารโตรอนโต-โดมิเนียน ออกมารายงานข้อมูลในลอนดอนว่า "เงินดอลลาร์ดูดีขึ้นมา แต่จากการคาดการณ์ของพวกเรานั้น มันอาจจะไม่สามารถใช้สถานการณ์ในแนวโน้มขาขึ้น ที่มีความมั่นใจอย่างเดียวได้"
เงินดอลลาร์แคนาดา ทิ้งตัวลงไปในระดับต่ำสุด นับตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2019 โดยมีความเกี่ยวข้องกับ เงินดอลลาร์สหรัฐที่เกิดขึ้นมา ไม่ใช่เพียงเพราะการแข็งค่าขึ้นมาภายหลัง แต่ยังเกี่ยวข้องกับ การประชุมของธนาคารแห่งประเทศแคนาดา นอกจากนั้น ในระดับสูงของคู่สกุลเงินดอลลารสหรัฐและดอลลาร์แคนาดา (USDCAD) ในรอบวันนี้ อยู่ที่ระดับ 1.3519
ตลาดหลายแห่งกำลังโฟกัสไปที่ การประมาณการทางเศรษฐกิจฉบับปรับปรุงและ อัตราเงินเฟ้อ รวมถึง แนวทางของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับ การเปลี่ยนแปลงด้านอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ทางเจ้าหน้าที่ได้ปรับลด การคาดการณ์ต่อการเติบโตของยอดจีดีพี ของปีนี้จากเดิมที่ระดับ 1.7% ไปเป็นระดับที่ 1.2% และ ยังตัดสินใจ ยกเลิกนโยบาย ที่มุ่งเน้นไปในด้านนโยบายที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น ที่จะเปิดเส้นทางความเป็นไปได้ที่ลดอัตราดอกเบี้ยลงไป การออกมาแถลงการณ์นี้เป็น สัญญาณเพิ่มเติมที่แสดงให้เห็นว่า คู่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและดอลลาร์แคนาดา (USDCAD) อาจจะเคลื่อนตัวไปสูงกว่าระดับที่ 1.40 ในระยะยาว
สำหรับเงินปอนด์พบว่า มันจะยังคงเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ ในระดับต่ำในรอบสองเดือน จากการที่ขาดการรายงานข่าวเกี่ยวกับประเด็นของ Brexit สำหรับภาพรวมของเศรษฐกิจ ในสหราชอาณาจักรอังกฤษ ไม่ได้แย่เท่ากับในยูโรโซน ดังนั้นแล้ว การทิ้งตัวลงที่ค่อนข้างมากของเงินปอนด์ในแนวโน้มนี้ อาจจะไม่สามารถรอได้ ในช่วงวันนี้ คุณ Theresa May อาจจะออกมารายงานเกี่ยวกับ การเจรจากับพรรคแรงงาน ที่ค่อนข้างมีความสำคัญ ซึ่งบางทีความแตกต่างที่เพิ่มขึ้นมาอาจจะก่อให้เกิดความสำคัญ
อย่างที่คุณทราบกันว่า ความเสี่ยงที่จะเกิด hard Brexit อาจจะไม่เกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นเงินปอนด์ที่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าค่อนข้างน่าดึงดูดสำหรับการซื้อ