หน้าหลัก มูลค่า ปฏิทิน ฟอรั่ม
flag

FX.co ★ ทองคำยังไม่ค่อยมีกำลังในช่วงนี้

parent
การวิเคราะห์ฟอเร็กซ์:::2019-05-09T02:25:46

ทองคำยังไม่ค่อยมีกำลังในช่วงนี้

การปรับตัวลงของดัชนีตลาดหุ้นในระดับโลกและ อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ตามแนวทางของนาย Donald Trump ที่ว่า เขาจะปรับขึ้นภาษีจาก 10% ไปเป็น 25% ในส่วนของมูลค่าการนำเข้าจะเป็น 200 พันล้านดอลลาร์จากประเทศจีน ตั้งแต่วันที่ 10 เดือนพฤษภาคม จนเหมือนจะเป็น "แนวโน้มขาขึ้น" ในคู่ของออนซ์ทองคำและดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD) ส่วนมูลค่าของคู่สกุลเงินนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาในระดับสูงในรอบสามสัปดาห์ แต่คนที่ชื่นชอบโลหะมีมูลค่า ยังไม่รีบร้อนที่จะสร้างความคืบหน้าใดๆ มันยังไม่มีใครรู้ว่า การเจรจาด้านการค้าระหว่างกรุงวอชิงตัน และกรุงปักกิ่ง จะจบลงไปอย่างไร ดังนั้นผลลัพธ์ ก็ยังคงไม่ชัดเจนสำหรับทองคำอยู่

ถึงแม้ว่า จะมีการเพิ่มขึ้นของคู่ของออนซ์ทองคำและดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD) ในตลาดฟอเร็กซ์ แต่ก็มีโลหะมีมูลค่า ล้นมาจากทางตะวันตก ไปยังตะวันออก ในตลาดสินทรัพย์ที่สามารถจับต้องได้ ซึ่งจะเป็นเรื่องปกติมาก สำหรับสภาวะของตลาดแนวโน้มขาลง สถาบัน Commerzbank ตั้งข้อสังเกตว่า หุ้นของกองทุนเพื่อการซื้อขายแลกเปลี่ยนเฉพาะทาง ได้ปรับตัวลดลงไปต่ำกว่า ตำแหน่งสำคัญทางจิตวิทยาของ 2,000 ตัน ที่นับว่าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม สำหรับการไหลเวียนออกไปจาก ETF นั้นจะเกิดขึ้นในช่วง 9 จาก 10 วันสุดท้ายของการซื้อขาย ในทางตรงกันข้าม ในเอเชียจะพบว่า กิจกรรมของผู้ซื้อกำลังเพิ่มขึ้น นอกจากนั้น ธนาคารแห่งประชาชนจีน ได้เพิ่มเงินสำรอง และทองคำ เป็นเดือนที่ห้าติดต่อกัน ในเดือนเมษายน พวกเขา ก็เพิ่มขึ้นมาอีกถึง 480,000 ออนซ์และ จนจะไปถึงระดับ 61.1 ล้านออนซ์ สำหรับการนำเข้าทองคำจากประเทศอินเดีย เพิ่มขึ้นมาจากเดิมที่ 73 T ในเดือนมีนาคมไปเป็น 121 T ในเดือนเมษายน ในตอนท้ายของเดือนที่สองของฤดูใบไม้ผลิในปี 2018 พบว่า ข้อมูลตัวเลขอยู่ที่ระดับ 52.8 ตัน

จากการนำเสนอข้อมูลความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา และ ประเทศจีนที่เพิ่มขึ้นมา ทำให้นักลงทุนต่างก็ซื้อพันธบัตรและ สกุลเงินที่ปลอดภัย เพื่อมาเผชิญหน้ากับ เงินเยนและ เงินฟรังก์สวิส ในขณะที่ทองคำก็ยังไม่รีบร้อน เนื่องจากมีความกังวลที่ว่า สงครามการค้าจะไปชะลอการเติบโตของจีดีพีในระดับโลกได้ นอกจากนั้นความแตกต่างในการพัฒนาทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและ ประเทศอื่นๆ ในโลก ตามรูปแบบของปีที่แล้ว จะไปช่วยในด้านของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเป็นปัจจัยในแนวโน้มขาลงสำหรับคู่ของออนซ์ทองคำและดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD)

การเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์สหรัฐและทองคำ

ในทางตรงกันข้ามนั้นเอง เหตุการณ์นี้ก็อาจจะพัฒนาไปเป็นอีกสถานการณ์ที่แตกต่างกันได้ จากการอ่อนตัสลงของอุปสงค์จากทั่วโลก จะยังคงมีส่วนทำให้เกิดการชะลอตัวลงไปของอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้นทางเฟด จะถูกบังคับให้ลดอัตราดอกเบี้ยตามนโยบายลงไป ซึ่งจะไปกระทบต่อสถานะของดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐ และจะไปกระตุ้นความสนใจของนักลงทุนต่อทองคำ ในภายหลังก็มีความไวต่อนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา และยิ่งเป็นการไปเพิ่มความเป็นไปได้ของการขยายตัวทางการเงินในปี 2019 จากเดิมในระดับที่ 51% ไปเป็น 40% ที่สนับสนุน "แนวโน้มขาขึ้น" ต่อคู่ของออนซ์ทองคำและดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD) อ้างอิงข้อมูลจาก รองประธานของเฟด คุณ Richard Clarida ที่ออกมาระบุข้อมูลไว้ว่า ตลาดตราสารอนุพันธ์ มีแนวโน้มที่จะลด อัตราลงไป ไม่ใช่เพียงเพราะว่า สุขภาพของเศรษฐกิจสหรัฐ แต่เพราะ ความเสี่ยงระหว่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น

นักลงทุนจำนวนมาก ไม่รีบร้อนที่จะมีการเคลื่อนไหวใดๆ เนื่องจากในตอนท้ายของสัปดาห์ของวันที่ 12 เดือนพฤษภาคมพบว่า สถานการณ์ในสงครามทางการค้า ไม่น่าจะได้คำตอบใดๆออกมา ถ้าหากประเทศจีน ตัดสินใจที่จะตอบโต้ทำเนียบขาว ด้วยการการปรับภาษีต่อนำเข้า ซึ่งเป็นวิธีแบบตาต่อตาฟันต่อฟันนั้นเอง โดยความเสี่ยงก็ยังคงลดระดับลงไป ในทางตรงกันข้าม การลงนามในข้อตกลง จากการปรับตัวลง ก็จะมีการส่งคืนอัตราดอกเบี้ยไปในสินทรัพย์ที่ทำกำไรได้

ตามทางเทคนิคแล้วพบว่า กราฟประจำวันของทองคำ ยังคงใช้รูปแบบ "จุดสองยอดด้านล่าง" และ "Wolfe Wave" ส่วนเป้าหมายของรุ่นล่าสุด จะอยู่ใกล้กับ 1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (การคาดการณ์การจากจุดที่ 5 ไปจนถึงเส้นที่ 1-4) สำหรับเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับกาประสบความสำเร็จ นั้นก็คือ การถอนตัวออกจากการฟิวเจอร์สของมูลค่าให้สูงกว่าช่องทางการซื้อขายที่ลดลง

แชร์บทความนี้:
parent
loader...
all-was_read__icon
คุณได้ดูสิ่งพิมพ์ที่ดีที่สุดทั้งหมดในปัจจุบัน
เรากำลังมองหาสิ่งที่น่าสนใจสำหรับคุณ
all-was_read__star
เผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้:
loader...
สิ่งพิมพ์ล่าสุดเพิ่มเติม