เหตุการณ์ล่าสุด แสดงให้เห็นว่กาารเจรจาด้านการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศจีน อาจจะไม่ลงเอ่ยไปอย่างง่ายดาย ความเสี่ยงโดยรวมท ได้รับผลกระทบอีกครั้งถึงแม้ว่า ในช่วงตอนท้ายของสัปดาห์ที่แล้ว พบว่ามีความพยายามที่จะส่งผลดี
มันเป็นสิ่งที่ควรให้ความสนใจกับ ความจริงที่ว่า ในวันจันทร์ความผันผวนของเงินหยวนของประเทศจีน กำลังจะลดระดับลงไป ส่วนสกุลเงินนี้ก็ได้ตระหนักถึง การปรับตัวที่มากที่สุดต่อวัน ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา หลังจากไปแตะที่ระดับ 6.9065 เมื่อเทียบกับ เงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนั้นนี้เป็นครั้งสุดท้าย ที่เงินหยวนมีราคาถูกลงไป ในช่วงวิกฤตการเงินโลก ถ้าหากสิ่งนี้ยังคงเกิดขึ้นต่อไปอย่างนี้ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เงินหนึ่งดอลลาร์ จะเท่ากับเจ็ดหยวนทันที ทางกรุงปักกิ่ง มีแนวโน้มที่จะใช้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศจำนวนมาก เพื่อนำมาป้องกันการอ่อนค่าของสกุลเงินประจำชาติ ซึ่งอาจจะทำให้เงินทุนไหลออกไปมาก
ในตอนนี้ นักลงทุนหลายคนกำลังหันไปสังเกตดูที่การตอบโต้ของประเทศจีน ซึ่งมีการรายงานถึง การใช้งานภาษีต่อสินค้าของอเมริกา จำนวนหนึ่งตั้งแต่วันที่ 1 เดือนมิถุนายนของปีนี้ โดยข่าวมีส่วนที่ทำให้ ความเชื่อมั่นลดลงต่อไปอีกด้วย ส่วนผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ได้แก่ เงินฟรังก์สวิสและ สกุลเงินที่ปลอดภัยแบบดั้งเดิมในภูมิภาคเอเชีย อย่างเช่น เงินเยนของญี่ปุ่น ในช่วงต้นของสัปดาห์นี้พบว่า ค่าของคู่สกุลเงิน ดอลลาร์/เยน ลดลงไปถึง 0.25% ของมูลค่าและ ก็ยังอยู่ใกล้กับระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนที่ระดับ 109.47 ในสัปดาห์ที่แล้ว
เงินเยนเป็น "ของที่ต้องการกัน"
ผู้เข้าร่วมในตลาด เริ่มเดิมพันกันว่า สกุลเงินของญี่ปุ่น จะได้รับผลประโยชน์จากสถานะการป้องกันหรือไม่ ถ้าหากความขัดแย้งทางการค้า ยังคงแย่ลงอยู่ต่อไป อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีการเคลื่อนตัวทะลุผ่านต่ำกว่า 110 แต่เงินเยนก็ยังขาดความน่าเชื่อถืออยู่เหมือนเดิม ทางด้านเทรดเดอร์ บางทีอาจจะไม่ต้องการให้มันไปไกลเกินไป หากยังไม่มีความชัดเจนของสถานการณ์ นอกจากนั้นผู้เชี่ยวชาญหลายคน ยังคงแสดงให้เห็นถึง ความเชื่อมั่นว่า ในไม่ช้าก็เร็ว "ท่าที" ของทั้งสองประเทศจะหายไปเอง และการเจรจาต่อรองก็จะผลิกกลับมาได้ข้อสรุป ส่วนสหรัฐอเมริกาและประเทศจีน ยังคงไม่ได้รับผลประโยชน์ จากความขัดแย้งที่ยืดเยื้อและ รุนแรง ส่วนเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าเมื่อปีที่แล้ว และจากการชะลอตัวลงไปของการเติบโตจีดีพีในระดับโลก ดังนัน้สงครามการค้าแบบเต็มรูปแบบ ก็อาจจะส่งผลกระทบร้ายแรงมากว่านี้ก็เป็นได้
ถ้าในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ ผู้นำของทั้งสองประเทศ ไม่ได้มาประนีประนอมกันแล้วจากนั้น เงินเยนอาจส่งผลทำให้เงินดอลลาร์ก้าวข้ามผ่านระดับของแนวรับไปได้
มีอีกคำถามที่น่าสนใจในขณะนี้ก็คือ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากความกังวลต่อสงครามการค้าหายไป? เป็นไปได้ไหมที่จะกลับไปยังตำแหน่งที่ 111 รึเปล่า? หรืออาจจะเป็นไปไม่ได้ แต่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ตลาดมีความมั่นใจว่า ได้ผ่านพ้นอันตรายไปได้แล้ว
เงินดอลลาร์ออสเตรเลียได้รับพื้นที่
เงินดอลลาร์ออสเตรเลียนั้น มีความอ่อนไหวอย่างยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลงของความเชื่อมั่น นอกจากนี้ มันยังเป็นสื่อกลางในของการประมูล ที่เกี่ยวข้องกับประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศออสเตรเลีย สำหรับความตึงเครียดในกระบวนการเจรจา ทำให้เกิดแรงกดดันต่อเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งทำให้ราคาลดลงไปอย่างเห็นได้ชัดเจนต่อเงินดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นยังมีการพบการปรับตัวลงที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินเยนของประเทศญี่ปุ่น เช่นเดียวกันกับเงินดอลลาร์แคนาดา
ในวันพุธนี้ คุณควรติดตามข้อมูลการรายงานด้านเศรษฐกิจของประเทศจีน ถ้าหากมันไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ มันก็จะส่งเสริมต่อมุมมองในตลาดว่า การเติบโตในจีน ยังคงชะลอตัวอยู่ ในกรณีนี้ กระบวนการไหลเวียนออกของเงินทุนจากตลาดที่เกิดใหม่ จะเร่งตัวขึ้นมากกว่าเดิม และค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าตามมาด้วย
นอกจากนั้น การไหลเข้าของเงินทุนไปยัง สหรัฐอเมริกาจะเริ่มเร่งอัตราเงินเฟ้อขึ้นมา ซึ่งจะทำให้ทางเฟด มีเหตุผลที่จะกระชับนโยบาย ซึ่งจะทำให้เกิดการฟื้นตัวของเงินดอลลาร์ได้ในวงกว้าง ถ้าพวกเรายังจำได้ว่า ธนาคารกลางแห่งประเทศออสเตรเลีย ไม่เต็มใจที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและ ยังให้สัญญาณต่อธนาคารกลางอีกว่า มีความเป็นไปได้ที่จะปรับลดลง จากนั้นแนวโน้มของเงินดอลลาร์ออสเตรเลียก็ดูไม่ค่อยดีนัก