การสำรวจล่าสุดจาก S&P Global นำเสนอข้อมูลออกมาในวันพฤหัสบดีว่าภาคการผลิตของประเทศมาเลเซียกลับมาขยายตัวในเดือนเมษายน โดยมีตัวเลข PMI อยู่ที่ 51.6 โดยเพิ่มขึ้นจาก 49.6 ในเดือนมีนาคม และขยับตัวขึ้นเหนือเส้นขึ้นและลงที่ระดับ 50 ซึ่งแยกการขยายตัวจากการหดตัวทางเศรษฐกิจ แม้ว่าระดับผลผลิตจะยังคงอยู่ต่ำ แต่คำสั่งซื้อที่เข้ามากลับฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจึงทำให้เกิดการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2014 ขณะที่มีความเชื่อมั่นของลูกค้าที่ปรับตัวดีขึ้น ถึงความต้องการเพิ่มขึ้น แต่ผู้ผลิตยังคงลดจำนวนพนักงานลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากข้อจำกัดด้านพรมแดนระหว่างประเทศได้ขัดขวางความสามารถของบริษัทในการจ้างงานจากต่างประเทศ จึงทำให้อัตราการตกงานเพิ่มขึ้น ธุรกิจต่างๆ ยังตั้งข้อสังเกตถึงความกังวลว่าแรงกดดันด้านราคาและอุปทานที่ยั่งยืนได้ขัดขวางการดำเนินงาน โดยเกิดการขาดแคลนวัสดุและความล่าช้าในการจัดส่งในวงกว้าง สิ่งนี้ส่งผลกับความคาดหวังของบริษัทเกี่ยวกับผลผลิตในอนาคต ซึ่งได้ลดลงไปยังจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา